รีวิว ร้าน Hinoya Curry ร้านแกงกะหรี่พรีเมียม ดีกรีแชมป์ระดับประเทศจากโตเกียว

Hinoya Curry ร้านแกงกะหรี่พรีเมียม รสชาติดั้งเดิมสมัยโชวะ ดีกรีแชมป์ระดับประเทศจากโตเกียว ที่ตั้งอยู่กว่า 57 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น เปิดแล้วสาขาประเทศไทยพร้อมให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติ ที่ชั้น 3  The Market Bangkok

Hinoya Curry ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นโดย Hiura Masaru เจ้าของร้านและเชฟชื่อดัง ด้วยสูตรดั้งเดิมจากต้นตระกูลตั้งแต่สมัยโชวะ ที่คิดค้นโดยคุณย่า ปรุงโดยคุณพ่อ และผ่านการคิดค้นทดลองด้วยกรรมวิธีที่พิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบและส่วนผสมกว่า 90 ชนิด ทำให้ได้รสชาติหลากหลายมิติ จนได้แกงกะหรี่ระดับพรีเมียมซึ่งให้รสชาติโดดเด่นไม่เหมือนที่ไหน ๆ คือ ‘คำแรกหวาน คำที่สองเผ็ดร้อน คำสุดท้ายหอมกรุ่นอยู่ในปาก’ ก่อนจะนำมาราดบนข้าวญี่ปุ่น ที่มีความนุ่ม เรียงเม็ดสวยงามด้วยวิธีการหุงสูตรเฉพาะ พร้อมเสิร์ฟในคอนเซ็ปต์ ‘แกงมิดข้าว’ แบบสดใหม่วันต่อวัน

ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมตามสูตรดั้งเดิมทำให้ Hinoya Curry ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันแกงกะหรี่ระดับประเทศ Kanda Curry Grand Prix ปี 2013 ซึ่งมีร้านข้าวแกงกะหรี่ร่วมแข่งขันกว่า 300 ร้าน ก่อนจะคว้ารางวัลชนะเลิศ จากการตัดสินโดยผู้ร่วมงานกว่า 50,000 คน ที่มาร่วมชิมและลงคะแนนถูกใจมากที่สุด หลังจากเปิดร้านได้เพียง 1 ปีกว่าเท่านั้น

กว่าจะได้แกงกะหรี่ที่มีความเข้มข้น ต้องผ่านกรรมวิธีที่พิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบและส่วนผสมที่ให้รสชาติหลากหลาย ผักที่มีกลิ่นเฉพาะและผลไม้ที่มาช่วยปรุงแต่งรสชาติให้ ‘คำแรกหวาน’ ไม่ว่าจะเป็นกล้วย มะม่วง องุ่นแห้ง และลูกพีช อีกทั้งยังมีเครื่องเทศกว่า 26 ชนิดที่ทำให้ ‘คำที่สองเผ็ดร้อน’ สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ เนื้อวัวและเนื้อหมู ที่ถูกนำมาเคี่ยวรวมด้วยไฟที่สม่ำเสมอนานกว่า 30 ชั่วโมง จนได้ความเข้มข้นอันเป็นที่มาของ ‘คำสุดท้ายที่หอมกรุ่นอยู่ในปาก’

แอบกระซิบกันนิด สาวๆ BNK48 ก็มาลองชิมความอร่อยกันแล้ว ในวันเปิดร้าน ใครอยากตามรอยสาวๆ  BNK48 ก็แวะไปลองชิมกันได้นะครับที่ร้าน Hinoya Curry thailand

บรรยากาศร้านสไตล์ญี่ปุ่น อบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ไฟสว่าง มีรูปภาพประวัติของร้านติดบนกำแพงสวยงาม การจัดโต๊ะรองรับลูกค้าจำนวนมากถือว่าดีเลย ไม่แคบมีทั้งมาทานแบบเดียว คู่ หรือครอบครัวก็นั่งสบาย มีเก้าอี้สำหรับเด็กไว้รองรับ หรือแม้แต่ช่วงเวลาลูกค้าเยอะก็ยังมีเก้าอี้สำหรับรอคิวด้วย

มาถึงก็ไม่รอช้า รีบหาที่นั่งแล้วเปิดเมนูทันที ซึงในเมนูมีให้เลือกเยอะและหลากหลายมาก ใครชอบอะไรก็เลือกอิ่มตามใจได้เลยครับ หมู เนื้อ ไก่ เยอะจริงๆ แถมยังมีชุดอาหารสำหรับเด็กๆ อีกด้วย

นอกจากเมนูจานหลักแล้ว ยังจับคู่ความอร่อยกับชุดสุดคุ้มได้อีกด้วย

• Set A (เพิ่ม 40 บาท) จะได้ซุปมิโสะ และเครื่องดื่มให้เลือกตามชอบ ระหว่างโค้ก สไปรท์ หรือชามะนาว
• Set B (เพิ่ม 70 บาท) จะได้สลัดมันฝรั่งหรือสลัดทูน่า พร้อมด้วยเครื่องดื่ม
• Set C (เพิ่ม 70 บาท) จะได้ซุปมิโซะและสลัด ไม่ว่าจะจับคู่กับเซ็ตไหนก็อร่อยคุ้มสุด ๆ

สำหรับเมนูที่จะลิ้มลองในวันนี้ ทางร้านเขาบอกว่าเมนูโปรโมชั่นใหม่ 3 เมนู+1 น้ำแกง สำหรับเมนูแรก

• ข้าวแกงกะหรี่โนริสาหร่ายเถ้าแก่น้อย
• ข้าวแกงกะหรี่จั้มโบ้ รวม 6อย่าง
• ข้าวแกงกะหรี่เนื้อ และแฮมเบิร์กเนื้อ

เมนูในวันนี้ที่อยากลองทานคือ “ข้าวแกงกะหรี่จัมโบ้ รวม 6อย่าง” มันขึ้นชื่อว่าจัมโบ้ก็เลยอย่ากลองแถมมีท็อปปิ้งหลากหลายถึง 6 อย่างเลย หมูทอด ไก่ทอด กุ้งทอด ใส้กรอก ไข่ดิบ และชีส เห็นเมนูชุดใหมญ่ขนาดนี้ผมเองไม่พลาดแน่นอน จัดการก็สั่งแบบเต็มที่เลย ขนาดไซด์ L ใหญ่สุดความเผ็ดระดับ 3 เป็นความเผ็ดสูงสุดของทางร้าน อันนี้เพิ่มเงิน 60 บาทค่าความเผ็ด

หลังจากรอไม่นาน เราก็จะได้ทานกันแบบร้อนๆเลยครับ เพราะทางร้านทำสดใหม่ทุกวัน ดูซิจานโตแค่ใหน ท๊อปปิ้งอย่างล้น หมูไก่ นี้เห็นได้ชัดเลยครับว่าใส่มาเยอะมาก แม้น้ำแกงกะหรี่จะกลบจนมิดไม่รู้ว่าหมูอยู่ตรงใหน

มาถึงก็ไม่รอช้าค่อยๆตักชิมทีละคำ ลืมบอกไปนิดนึง เขามีน้ำแกงให้เลือกก่อนเสริฟ 2 รส ก็คือหมูและเนื้อ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ราคาเนื้อจะแพงกว่านิดหน่อย ราวๆ 30 บาท จะรอช้าอยู่ใย จัดไปคำแรงบอกเลยว่าอร่อยเผ็ด หวาน ออกไปทางเค็มนิดนึง แต่ก็อร่อยด้วยส่วนผสมที่ลงตัวในจานนี้ เกินได้เรื่อยๆ

ผมเองเวลาไปญี่ปุ่นก็ไม่พลาดที่จะลองชิมข้าวหน้าแกงกะหรี่ ดังนั้นเมื่อมีร้านใหม่ๆที่น่าสนใจมาเปิดในไทยก็ไม่พลาดเช่นกัน เอาเป็นว่าอยากให้มาลองชิมกันนะครับ ส่วนราคาบาดเจ็บของวันนี้ก็อยู่ที่

• ราคาเพียง 470 บาท
• ความเผ็ดระดับ 3 เพิ่ม 60บาท
• โค๊กรีฟิล 1 แก้ว 49 บาท
• ยอดรวม 579 บาท
• vat 40 บาท รวมแล้ว 619 บาท

สถานที่ตั้งทางร้าน