สำหรับหน้าฝนแบบนี้ จะออกไปหาคาเฟ่นั่งชิลๆ อาจจะดูลำบาก ไหนจะต้องพกร่ม การเดินทางที่จะเสี่ยงต่อชุดตัวเก่ง วันนี้เราเลยชวนมาหลบฝนที่ Botanica Cafe คาเฟ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางป่า อีกทั้งยังติดสถานีรถไฟฟ้า BTS ซึ่งรับรองเลยว่านอกจากการเดินทางอันแสนสะดวกแล้ว ขนม เครื่องดื่ม และบรรยากาศก็ดีไม่แพ้ที่ไหนเลย
สำหรับการเดินทางก็ง่ายมากๆ เพียงนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีสำโรง แล้วเดินออกทางออกที่ 6 แล้วเดินย้อนมาใต้สถานีนิดนึง ก็จะเจอกับหน้าร้านสีเขียวๆ ตกแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์
และเมื่อเราได้ก้าวผ่านประตูเข้าไปในร้านก็จะพบกับบรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางป่ายังไงยังงั้น แต่ว่าที่โดดเด่นพอๆกับต้นไม้ก็คือเสียงเพลงที่เปิดในร้านและของตกแต่งที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ร้านนี้มีความโดดเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยส่วนตัวชอบเพลงมาก เพราะรู้สึกว่ามันเข้า Theme ร้านมากๆ
หลังจากสั่งเครื่องดื่มและเค้กต่างๆเรียบร้อย ถ้าที่นั่งข้างล่างเต็ม ทางร้านเองก็มีพื้นที่ชั้น 2 ให้บริการ โดยบริเวณชั้น 2 ก็จะมีที่นั่งที่เยอะพอสมควร และยังคงธีมของร้านได้เป็นอย่างดี ทั้งต้นไม้ และของตกแต่ง อีกทั้งผนังที่เป็นกระจกทั้งบาน ทำให้บริเวณชั้น 2 ได้รับแสงจากธรรมชาติ ทำให้ชั้นสองดูสว่างไสวกว่าชั้น 1 เยอะมาก
แล้วเครื่องดื่มและขนมสำหรับร้านนี้ละ บอกเลยว่าวันนี้จัดเต็ม 5 เมนูกันเลยทีเดียว โดยเริ่มกันที่
เค้กช๊อกโกแลตฟัดจ์ (110 บาท)
เริ่มกันที่ตัวบราวนี่ข้างบนเค้กก่อน ตัวบราวนี่นั้นเข้มข้นมาก เข้มแบบเข้มจนรู้สึกได้ถึงความขมของช๊อคโกแลต ส่วนตัวเค้กก็จะไม่แน่นและไม่หวานมากเท่าไรนัก แต่ถ้าลองกินรวมทั้งเลเยอร์ของเค้กและท๊อปปิ้งก็โอเคในระดับนึง
แอบเสียดายที่ตัวครีมช๊อคโกแลตมันน้อยไปหน่อย น้อยเกินจนที่จะเรียกว่าช๊อกโกแลตฟัดจ์ แต่ชอบบราวนี่ข้างบนนะ มันเข้มข้นดี
เค้กมะพร้าว (98 บาท)
เมื่อได้เค้กมาอย่างแรกที่ทำเลยคือ “ดม” (ฮา) เพราะว่าเค้กมะพร้าวส่วนใหญ่มีจุดเด่นหลักๆ เลยคือความหอมของมะพร้าว และบอกเลยว่าสอบผ่าน ตัวเค้กหอมมาก และเมื่อลองทานก็บอกเลยว่าแป้งนุ่มมากกกกก ส่วนครีมมะพร้าวออกจะแน่นๆ แต่เมื่อทานคู่กับเนื้อเค้กแล้ว มันก็ไม่ได้หนักท้องจนเกินไป
แต่ตัวที่โดดเด่นจริงๆ ของเค้กชิ้นนี้ก็คือเนื้อมะพร้าวอ่อนที่ท๊อปปิ้งอยู่บนหน้าเค้ก เพราะว่าตัวเนื้อมะพร้าวมันอ่อนและกินง่ายมาก และแน่นอนว่ากินครบเลเยอร์ทั้งเค้ก ครีม และท๊อปปิ้ง ก็ต้องยิ้มออกเบาๆเลยละ
บาน๊อฟฟี่ (115 บาท)
เมื่อบาน๊อฟฟี่กลายร่างจากของหวาน มาเป็นเครื่องดื่ม มันก็เลยต้องลองสักหน่อย โดยตัวเครื่องดื่มหลักจะเป็นกาแฟ ท๊อปปิ้งด้วยวิปครีม และตกแต่งด้วยกล้วยตามแบบบาน๊อฟฟี่
คือต้องบอกก่อนว่าแอบคิดว่ารสชาติมันจะออกหวานๆ แต่ปล่าวเลยยยยยย มันยังคงความเป็นกาแฟได้เป็นอย่างดี ตัวกาแฟที่เป็นส่วนประกอบหลักไม่หวาน ออกจะขมๆด้วยซ้ำ ส่วนตัววิปข้างบนก็คงความหอมของกล้วย คงความเป็นบาน๊อฟฟี่ได้อยู่
ถ้าใครชอบกินกาแฟแบบไม่หวาน ก็แนะนำอยู่นะ
ชากุหลาบเย็น (65 บาท)
ชากุหลาบเย็นเสิร์ฟมาในแก้ว ตกแต่งด้วยกุหลาบแห้ง แว่บแรกที่เห็นก็แบบว่าต้องถ่ายโชว์เพื่อนอ่ะ เพราะว่ามันสวยมาก ดูเหมือนคริสตัลสีชมพูที่มีกุหลาบผนึกอยู่ในนั้น
และนี่เป็นอีก 1 เมนูที่แอบดม 555 เพราะอยากรู้ว่าชามันหอมกุหลาบขนาดไหน ก็หอมกลิ่นกุหลาบอยู่ ถึงว่ามันจะไม่ได้หอมมากแต่ก็ยังได้อยู่ ส่วนรสชาตินั้นก็ไม่หวานมาก ดื่มสวยๆ เพลินๆ ลดความหวานจากเค้กได้ดีเลย
Versailles (175 บาท)
Versailles (อ่านว่า แว-ซาย) เป็นเมนู Signature ของร้านเพราะว่ามีจำกัดในแต่ละวัน เป็นเค้กบัตเตอร์ 2 ชิ้นประกบกันไส้ตรงกลางเป็นสตอเบอรี่ และซอสสตอเบอรี่ ราดด้วยวิปครีมสีขาว ตกแต่งด้านบนด้วยสตอเบอรี่ บลูเบอรี่ และดอกไม้ที่ทานได้
สวยมากจนไม่กล้ากินเลยอ่ะ แต่ไหนๆ ก็สั่งมาแล้วเนาะ ค่อยๆใช้มีดหั่นแบ่งบอกเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเอาเข้าปากพร้อมกันทุกชั้น
เนื้อเค้กบัตเตอร์เนียน หอม และนุ่มมาก วิปครีมรสสัมผัสเบาๆ เย็นๆ ตัดกันความอุ่นของเค้กบัตเตอร์ได้ดีมาก ตัดรสด้วยซอสสตอเบอรี่หวานเปรี้ยวนิดๆ เผลอแปบเดียว หมด!
แนะนำให้มาลองเองเลย มันอร่อยอ่ะ
ก็ถือว่าเป็นอีก 1 ร้านที่อยากให้มาลอง โดยเฉพาะเมนู Versailles เพราะว่ามันดีมากจริงๆ แถมเดินทางก็สะดวกมาก ติดรถไฟฟ้า BTS แต่ต้องมาไวหน่อยนะ เพราะเมนู Versailles นี่มีจำนวนจำกัด มาหลังเที่ยงอาจจะอดก็ได้
และที่สำคัญร้านเองก็เพิ่งเปิดใหม่ ก็เลยจะมีเมนูใหม่มารัวๆ เลย ใครไปเจอเมนูอื่นที่น่าสนใจ ก็มาแนะนำกันได้ 😀
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ชื่อร้าน : Botanica cafe
- สถานที่ตั้ง : BTS สำโรง ทางออกที่ 6 เดินย้อนมาใต้สถานี ก็จะเจอเลย
- เวลาให้บริการ : ทุกวัน เวลา 10:30 – 20:00 น. (หยุดทุกวันพุธ)